รองโฆษกรัฐบาล เปิดเผยว่า รมว. พาณิชย์ มีความมั่นใจในการ ส่งออกข้าว ของประเทศ ไทย ภายในสิ้นปี 2565 นั้น จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 7 ล้านตัน (3 ส.ค. 2565) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้ความมั่นใจว่าแนวโน้มการส่งออกข้าวไทยในปีนี้ จะเป็นไปตามเป้าที่ 7 ล้านตัน
จากสถิติกรมศุลกากรและใบอนุญาตส่งออกข้าวของกรมการค้าต่างประเทศ
ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 21 ก.ค. 2565 ไทย ส่งออกข้าว ปริมาณ 3.99 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 2,106 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 70,340 ล้านบาท) ปริมาณและมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นร้อยละ 58.28 และร้อยละ 34.16 ตามลำดับ
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ร่วมกันขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ข้าวไทย ปี 2563-2567 ซึ่งมีความก้าวหน้าอย่างมาก ทั้งเรื่องการพัฒนาสายพันธุ์ที่ตรงความต้องการตลาด รสชาติ และความเหมาะสมต่อสภาพแวดล้อม ตลอดจนการทำการตลาดเชิงรุกทั้งในตลาดเก่าและตลาดใหม่
สำหรับความก้าวหน้าของการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ข้าวไทย มี 3 ประเด็น หลักคือ คือ
1. การพัฒนาพันธุ์ข้าว เป้าหมายต้องได้พันธุ์ข้าวใหม่ 12 พันธุ์ ภายใน 5 ปี ซึ่งได้มีการจัดโครงการประกวดข้าวพันธุ์ใหม่เพื่อการพาณิชย์ ครั้งที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา 2565 ได้ข้าวพันธุ์ใหม่ 6 สายพันธุ์ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งดำเนินการขอรับรองพันธุ์พืชและขึ้นทะเบียนพันธุ์ข้าวให้เรียบร้อยก่อนเข้าสู่กระบวนการอื่นๆ ตามขั้นตอนต่อไป
2. การจัดประกวดข้าวพันธุ์ใหม่เพื่อการพาณิชย์ ครั้งที่ 2 ประจำปี 2565 ซึ่งได้ปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการฯ ไปแล้ว เมื่อ 15 กรกฎาคม 2565 โดยกระทรวงเกษตรฯ ดำเนินการตามขั้นตอนการประกวดในส่วนที่เกี่ยวข้อง อาทิ การตรวจสอบประวัติพันธุกรรม การกำหนดรหัสตัวอย่างพันธุ์ข้าวที่ผ่านการตรวจสอบ การกระจายตัวอย่างพันธุ์ข้าวไปยังแปลงนาทดลองเพื่อลงเพาะกล้าข้าว เป็นต้น และ
3. การเพิ่มจำนวนหน่วยตรวจสอบเอกลักษณ์พันธุกรรม (DNA) ข้าวหอมมะลิไทย เพื่อเปิดให้บริการตรวจสอบ DNA ข้าวหอมมะลิไทยในเชิงพาณิชย์ เป็นการลดค่าใช้จ่ายในการขนส่งตัวอย่างของผู้ประกอบการ ซึ่งกรมการข้าวอยู่ระหว่างพิจารณาและจะเร่งดำเนินการ
มากไปกว่านั้น รองนายกจุรินทร์ ยังได้ติดตามเรื่องการกระชับความสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศผู้นำเข้าข้าวรายสำคัญของไทย ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีมาโดยตลอด มีกิจกรรมส่งเสริมการขายในหลายประเทศ อาทิ จัดกิจกรรมร่วมกับเครือข่ายห้างสรรพสินค้าและไฮเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ สาธิตการทำอาหารจากข้าวไทยร่วมกับร้านอาหาร Thai Select จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับแพลตฟอร์มออนไลน์ ล่าสุดจัดที่ประเทศมาเลเซียได้รับความสนใจอย่างมาก คาดว่าในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 จะมีความต้องการนำเข้าข้าวไทยสูงขึ้นอย่างแน่นอน และในระยะต่อไปกรมฯ จะหารือกับฟิลิปปินส์และสิงคโปร์ และภูมิภาคอื่น เพื่อขยายส่วนแบ่งในตลาดเป้าหมายของข้าวไทย
การเข้าร่วมผนึกกำลังในครั้งนี้
สยามพิวรรธน์จะเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งในส่วนการพัฒนาพื้นที่ค้าปลีก และบริหารจัดการสินทรัพย์อสังหาริมทรัพย์ (Retail Asset Management and Property Management) เพื่อเติมเต็ม ประสบการณ์อันน่าตื่นตาตื่นใจ สำหรับตอบโจทย์การใช้ชีวิตคนเมืองในการทำงานและสร้างไลฟ์สไตล์แบบใหม่ ในทุกมิติ”
“ซึ่งการเข้ามาร่วมผนึกกำลังของสยามพิวรรธน์ครั้งนี้ นับเป็นการเข้ามาร่วมมือในจังหวะและเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากทำเลย่านสีลมเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูง เป็นศูนย์รวมขององค์กรชั้นนำ ทั้งสถาบันการเงิน องค์กรขนาดใหญ่ รวมถึงบริษัทข้ามชาติจำนวนมาก
ดังนั้นย่านสีลมจึงเป็นแหล่งที่แวดล้อมไปด้วยผู้คนที่มีกำลังซื้อสูง ขณะเดียวกัน ก็จะมีพื้นที่สำหรับแบรนด์ใหม่ ๆ และพื้นที่รองรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ที่ต้องการบริหารเวลาระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิต ให้สมดุลเป็นทั้งแหล่งช้อปปิ้ง
แหล่งสังสรรค์ของบรรดาพนักงานออฟฟิศและนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ ที่จะเดินทางมายังประเทศไทยหลังการเปิดประเทศอย่างคับคั่ง”
“เรามีความเชื่อมั่นว่า จากความสำเร็จของสยามพิวรรธน์ในฐานะผู้พัฒนา “World Class Destination” และการสะสม องค์ความรู้ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจห้างสรรพสินค้า ธุรกิจอาหาร และเครื่องดื่ม ธุรกิจสื่อสารการตลาด
ตลอดจนธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ อสังหาริมทรัพย์ของสยามพิวรรธน์ ที่ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่งตลอดมา จะสามารถเสริมคุณค่าและความสำเร็จ มาสู่เป้าหมายของความร่วมมือในครั้งนี้ และจะเป็นการปฏิวัติวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และรีเทลอีกครั้ง
ด้วยการสร้าง one-of-a-kind retail experience ที่แตกต่างและโดดเด่นที่สุดในย่านสีลม” นายชลชาติ กล่าวตอนท้าย
Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่าง